ช่วงต้นปี 2563 ที่ประเทศไทยบ้านเรา เห็นว่ามีข่าวลดแจกถุงพลาสติก เลยได้เห็นรูปครีเอท วิธีต่าง ๆ ในการไปซุปเปอร์มาเก็ตใหญ่ ๆ หรือเข้า 7-11 กันเต็มโลกออนไลน์ คนไทยเราเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก จริง ๆ ค่ะ วันนี้เลยอยากจะมาแชร์วิธีการไปช้อปปิ้งซื้อของกินเข้าบ้านแบบฉบับของเราค่ะ คือเรากับสามีจะไปซื้อของกันอาทิตย์ละครั้ง และที่นี่ไม่มีถุงพลาสติกแจกฟรี ๆ มานานแล้วค่ะ ลูกค้าอย่างเราเนี่ย ต้องช่วยเหลือตัวเอง และเตรียมตัวมาให้พร้อมก่อนไปเข้าซุปเปอร์มาเก็ตนะคะ
ที่ผ่านมาเราใช้ถุงกระสอบช้อปปิ้งที่ใบเล็ก ๆ ค่ะ เวลาจะใช้แต่ละทีก็ต้องกางถุงออก อีกคนคอยจับปากถุง อีกคนคอยใส่ของ และต้องใส่ให้เร็ว ๆ บางทีไปตีกัน ทะเลาะกับสามีอยู่ตรงแคชเชียร์แหละค่ะ จับของใส่ถุงไม่ทันใจเค้า เรามันคนช้า ๆ เนิบ ๆ สายชิว ตอนนี้เราเลยมีไอเทมใหม่ค่ะ ถูกใจสุด ๆ ไม่มีการทะเลาะกันที่แคชเชียร์อีกเลยค่ะ 55
หลังจากค้นพบทางที่ใช่ สำหรับสองเราแล้ว สิ่งที่เราเตรียมไปประจำทุกครั้งเวลาไปซุปเปอร์มาเก็ตทุกอาทิตย์คือ กล่องอเนกประสงค์แบบพับได้ นั่นเองค่ะ เรียกได้ว่าพระเอกในดวงใจของเราเลยตอนนี้ ตั้งแต่ได้มา ก็ไม่เคยเอาไปคืนที่ร้านอีกเลย 555+
ที่มาของเจ้ากล่องพับได้นี้คือ เราได้มาตอนที่ใช้บริการ Collect & Go คือการสั่งซื้อผ่านแอพพลิเคชั่น ในวันที่ไม่มีเวลาไปเดินซื้อของเองในซุปเปอร์มาเก็ต สั่งล่วงหน้า 1-2 วัน แล้วพนักงานจะจัดการทุกอย่างลงกล่องนี้มาให้เรา เราก็จ่ายเงินแล้วรับของพร้อมกล่องกลับบ้านค่ะ
โดยจะมีค่ามัดจำกล่องละ 5 € และหากเราใช้บริการ Collect & Go ครั้งต่อไป โดยที่กล่องไม่เสียหาย ก็ไม่ต้องจ่าย 5 € ค่ะ หลังจากนั้นเราก็มีเจ้า 2 กล่องนี้ติดบ้านไว้ตลอดค่ะ สามารถนำกลับไปใช้ได้ในการซื้อของครั้งต่อไปได้ตลอด เอาไปใช้ได้ทุกซุปเปอร์มาเก็ตแหละค่ะสะดวกมาก
แต่ถ้าหากว่าใครไม่ได้ใช้บริการ Collect & Go เพื่อจะได้กล่องมา คุณก็สามารถซื้อกล่องพับนี้ได้จากในซุปเปอร์มาเก็ตเช่นกันค่ะ จะมีขายตรงแคชเชียร์ค่ะ ราคาใบละประมาณ 9 € ค่ะ เรียกได้ว่าซื้อครั้งเดียวใช้คุ้มเลยค่ะ เหมาะแก่การลงทุนมาก ๆ เราเห็นมีคนเริ่มใช้กันแพร่หลายมากขึ้นค่ะ จบเรื่องที่มาของเจ้ากล่องไปแล้ว มาต่อกันที่ใช้ยังไงค่ะ
คือต้องยกด้านบนขึ้นนิดนึง แล้วดันด้านข้างกล่องออกทางด้านข้าง ให้ลงล็อก ดัง “คลิก” คือเป็นอันใช้ได้ค่ะ แค่นี้ก็พร้อมใช้งานแล้วค่ะ พอจะพับเก็บ ก็ทำตรงกันข้ามค่ะ ง่ายนิดเดียว (ตอนได้มาครั้งแรก เรากับสามีหาทางพับเก็บกันอยู่เป็นพักเลยค่ะ😅 ทำไงได้คนไม่เคยใช้ )
พอเราเลือกซื้อของเสร็จแล้ว ก็มาเข้าคิวรอชำระเงินค่ะ
สำหรับซุปเปอร์มาเก็ตร้านนี้ จะมีรถเข็นว่างเปล่าจอดรออยู่ที่ช่องแคชเชียร์ค่ะ หลักการคล้าย ๆ กับห้างสรรพสินค้าขายส่ง ค่ายสีแดงที่บ้านเราเลยค่ะ เข็นรถเข้าไปทั้งคันเพื่อแสกนเลยค่ะ แต่ที่นี่จะเป็นการเอารถเข็นคันที่เราเข็นมาเนี่ย ไปจอดเทียบเพื่อรอการสลับกับคันที่จอดว่างเปล่าอยู่นั่นเองค่ะ ไม่มีสายพานให้วางของ ลูกค้าไม่ต้องจับสินค้าเข้า-ออกหลายรอบ และจะได้ไม่ต้องยกลังหนัก ๆ หรือถุงหนัก ๆ ย้ายไปลงรถเข็นให้เจ็บหลังเสียเส้นกันค่ะ
เราก็จะกางเจ้ากล่องเปล่าของเราไปในรถเข็นว่างคันนั้น (รูปซ้ายมือ) เพื่อรอพนักงานมาสแกนสินค้า ทีละชิ้น เเล้วย้ายจากรถเข็นคันของเราไปเรียงใส่กล่องในรถเข็นคันใหม่ค่ะ พอสแกนครบทุกชิ้นแล้ว เราก็เข็นคันที่มีของเต็มคันไปจ่ายเงิน ส่วนรถเข็นของเราที่เคยเต็มก็จะว่างเปล่า สลับที่กันเพื่อรอรับลูกค้าคนต่อไปนั่นเองค่ะ
ง่ายมาก ๆ เลยเราชอบระบบของซุปเปอร์ร้านนี้มาก แต่ยังมีบางร้านนะคะ คุณต้องหยิบของใส่ถุงเอง แล้วสาวแคชเชียร์ก็แสกนสินค้าเร็วมาก ลูกค้าก็ต้องแบบว่าโยน ๆ ใส่ถุงให้มันเต็ม ๆ ไป แล้วต้องทำให้เร็วด้วยค่ะ ไม่งั้นลูกค้าคนต่อไปอาจจะเขม่นเราได้อีก แต่ถ้ามาที่นี่ เค้าจะทำให้เลยเรียบร้อย เค้าบอกว่านี่คือจุดขายของร้านเค้าเลย นอกจากของจะราคาถูกสุด ๆ แล้ว ลูกค้าก็ไม่เครียดเพราะหยิบของใส่ถุงไม่ทันอีกค่ะ แค่ยืนรอจ่ายเงินอย่างเดียวพอ
แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ หากวันไหนคุณต้องเข้าซุปเปอร์มาเก็ต แต่เกิดลืมเอากล่องมา หรือว่าลืมเอาถุงผ้าติดไม้ติดมือมาซื้อของ สามารถซื้อถุงพลาสติกของซุปเปอร์นั้นได้ค่ะ แต่น้อยคนมากค่ะที่จะซื้อถุงพลาสติก หรือตรงทางออก ใกล้ ๆ แคชเชียร์ของเกือบทุกซุปเปอร์มาเก็ตที่นี่จะมีกล่องกระดาษ ที่มาของกล่องกระดาษเหล่านั้นคือหลังจากพนักงานในร้านแกะกล่อง เหล่านั้นเพื่อเติมสินค้าบนชั้นวางเรียบร้อยแล้ว เค้าจะนำลังกระดาษที่คิดว่าแข็งแรงพอ สะอาด และยังใช้งานได้ ไว้บริการลูกค้าค่ะ สามารถหยิบใช้ได้เลยค่ะ ปล. กล่องที่ป็อปปูล่าที่สุดคนแย่งกับหยิบไปใช้คือ กล่องใส่กล้วยค่ะ วางทีไรหมดเร็วทุกที (จากประสบการณ์ตรง เพราะเราทำงานที่ซุปเปอร์มาเก็ตค่ะ จะทราบดี 🤣)
สำหรับกล่องพับเอนกประสงค์นี้ จะสะดวกใช้หากเดินทางโดยรถยนต์ค่ะ แต่ถ้าเราไปซื้อของด้วยจักรยาน เราก็จะพกถุงผ้าไปเองค่ะ วิธีเบสิคบ้าน ๆ เนอะ ในกระเป๋าเราจะพกถุงผ้าเล็ก ๆ ตลอดก็ไม่ได้กินเนื้อที่กระเป๋าสักเท่าไหร่ค่ะ
อยากจะบอกว่าทุกปัญหามีทางออกค่ะ เพราะล่าสุดเราอ่านข่าวที่ประเทศไทย ห้างสรรพสินค้าเริ่มบ่นว่ายอดขายตก เพราะไม่แจกถุงพลาสติก เลยอยากจะกลับมาแจกถุงพลาสติกอีกรอบ แต่จะเอาแบบย่อยสลายง่าย หรือจะยังไงไม่ทราบ เลยอยากจะบอกว่าทางออกมันมีค่ะ เราต้องเดินไปข้างหน้านะคะ ต้องค่อย ๆ เปลี่ยนค่ะ ทั้งลูกค้า และผู้ประกอบการ เราทำได้แน่นอนค่ะ คุณทำดีแล้วตอนนี้ ที่เราได้เริ่มต้นลงมือ ช่วยกันคนละมือ เล็ก ๆ น้อย ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ
