เช้าวันที่ 7 เมษายน 2018 นัดกับน้องสะใภ้ ว่าจะไปช้อปปิ้งกัน หาซื้อเสื้อผ้ากันในเมือง โดยต่างคนต่างไปโดยจักรยาน แล้วไปนัดเจอที่ Markt จริง ๆ ก่อนออกจากบ้านน้องสาวก็ถามย้ำนะ ว่าเมย์รู้ทางใช่มั้ย ๆ ไว้เราไปเจอกันที่จอดจักรยานแถวหน้าร้าน Mango เราก็สบายมากโอเค ไม่หลงหรอก ใช่ค่ะ ไม่หลงค่ะ แต่โดน ตำรวจจับ เพราะเราขับรถไปในทางที่ห้ามเข้า เอาง่าย ๆ คือ ขับสวนถนนวันเวย์ จริง ๆ เราแค่จ่อ ๆ ทางเข้าเองนะ เพราะย้อนไปไม่ได้ไง ทางแคบและมีรถยนต์สวนออกมา แค่จ่อ ๆ ทางเข้าเท่านั้นละ
บังเอิญมีตำรวจยืนอยู่หน้าหอนาฬิกา Belfort แล้วเค้าเห็นเราจากระยะไกล เค้าเลยวิ่งตามเรามา และเป่านกหวีดเรียก Stop!!!! ดังมาก เราอายมากด้วย นักท่องเที่ยว เต็มไปหมด คนเค้าก็มองกันเต็มเลย ก่อนอื่นเค้าก็ถาม English/Nederlands (กดเลือกภาษาก่อนค่ะ 555) เราก็ English ไป เค้าถาม คุณไม่เข้าใจความหมายของป้ายนี้เหรอ (พร้อมชี้นิ้วไปที่ป้ายจราจรวงกลมสีแดง) เราก็หงุดหงิด พ่นอารมณ์ใส่ No!! แล้วก็หน้าบูดหน้าบี้ ตอบไปว่าไม่รู้ (คือถ้าฉันรู้ฉันจะฝืนย้อนศรมามั้ยละ เพราะสามีเคยบอก จักรยานเมย์จะขี่ไปไหนก็ได้ ไปได้หมด เออ! แล้วไงละ ฉันโดนตำรวจเรียกนี่นะ)
พอโดนจับสามีนางก็มาพลิกลิ้นว่า ใช่ไงเมย์จะขี่จักรยานไปไหนก็ได้ไง แต่ต้องไปที่ที่ไม่มี ตำรวจไงเมย์ ทำไมไม่ปั่นหนีละ เอ้อคนเรา จะปั่นยังไงทัน ความเร็วจักรยานเรา คุณย่า คุณยายที่นี่ยังปั่นแซง แค่โดนเป่านกหวีดเรียกนี่ก็อายเค้าจะตายอยู่ละ
กลับมาที่ ตำรวจ เค้าก็เรียกบัตรประชาชนเรา แล้วก็จดๆๆๆ ยิกๆๆ ใส่สมุดโน้ต เล็กๆ แบบสมุดโน้ตแบบมีเส้นอ่ะ คือมันว่างเปล่ามากๆ เราก็กวนประสาทพร้อมความสังสัย ยิ่งหงุดหงิดจะโดนค่าปรับเลยถามกลับว่า นี่คือไร จดไปเท่านี้เองเหรอ ไหนใบเอกสาร ที่จะให้ฉันไปจ่ายเงิน ให้จ่ายเงินสดตอนนี้เราไม่มีนะ ไม่พกเงินเยอะขนาดนั้น แต่เค้าบอก ไม่ต้องห่วง มีแน่ มันจะส่งไปที่บ้านแน่ คือแบบ เราชินกับการที่ ตำรวจไทย มีก้อปปี้ใบสั่งให้หลังโดนปรับไง นี่ก็กลัวใบสั่งลอย (คิดไรอยู่วะเนี่ย กลัวใบสั่งลอย) เพราะเค้าแค่โน้ตสั้นๆ กับชื่อเราไปเท่านั้นเอง แล้วก็สาเหตุที่เราผิด วันเวลา… หลังจากนั้นก็คืนบัตรประชนเรา พร้อมบอกว่า ถนนนี้ รถห้ามเข้า มันวันเวย์ถ้าอยากขี่จักรยานช้อปปิ้ง ต้องไปอีกเส้นนึง เส้นถัดไป อารมณ์ตอนนั้นไม่ฟังเเล้วอ่ะ จะร้องไห้ อายคน ได้แต่จูงจักรยานคอตกไปอีกทางนึง ล็อกรถแล้วเดินเท้าไปหาน้องสาว แล้วก็โทรรายงานสามี เออฉันโดนค่าปรับ เท่าไหร่ไม่รู้ พอหลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์ จดหมายมาบ้านค่ะ และแล้วช่วงเวลาที่ตื่นเต้นก็มาถึง ช่วงเวลารู้ค่าปรับก็มาถึง….
โอ้ คุณพระช่วย มือทาบอก ค่าปรับ 174€ น้ำตาไหลพราก ค่าปรับมันแพงกว่าจักรยานเศษเหล็กที่ขี่ไปโดนจับซะอีก
มาอยู่ที่นี่ ได้ไม่ถึงปี รายได้ก็ไม่มี มาโดนค่าปรับ 174€ ตายค่ะตาย นี่คือราคา ค่าปรับจักรยาน!!!! คำถามนี้วนเวียนในหัว หลายรอบมาก นี่ถ้ารถยนต์จะราคาขนาดไหน จนสามีบอกว่ามันไม่เกี่ยวว่าเราขับ รึขี่อะไร ค่าปรับมันมีเกณฑ์ของมันอยู่ ตามเกรดความผิด ของเมย์ก็ราคานี้แหละ เพราะฝ่าฝืนป้ายนี้ หมวดนี้ เฮ้อออ เข็ดแล้วจ้า ค่าปรับแพงเหลือเกิน และที่เจ็บใจไปมากกว่านั้น ตอนเดินช้อปปิ้งกับน้องสาว หรือจะทุกวันนี้ ก็ยังเจอคนขี่จักรยานย้อนศรถนนเส้นนี้มานะ แบบเราเลย แล้วคืออะไร คนพวกนี้ทำไมไม่โดนปรับแบบฉัน ฮืออออ!!! ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน ตอนนี้จะไปไหนมาไหนดูป้ายดูทางตลอดเลย เห็นป้ายวงกลมสีแดง แล้วจำขึ้นใจ ห้าเข้า ๆ 😅 เข็ดแล้ว บ้าย ๆ ไม่อยากเจออีกแล้ว ตำรวจจ๋า
เลยอยากจะเตือนคนไทยที่มาอยู่ใหม่ที่นี่นะคะ ว่าจะไปไหนมาไหนควรดูป้ายจราจรให้ดี ๆ ถ้าไม่อยากโดนค่าปรับให้เสียดายเงินแบบเรา ขี่จักรยานที่นี่ จะชิว ๆ แบบไทยไม่ได้เลยค่ะ ต้องทำตามกฎหมายจราจรของเค้าด้วยนะ ด้วยความหวังดี
