สอบใบขับขี่รถยนต์ (B) ที่เบลเยียม

หลังจากเราอยู่เบลเยียมมามากกว่า 2 ปีและก็ถึงเวลาแล้วที่ ต้องขับรถให้เป็นสักที ต้องพึ่งตัวเองให้ได้ สำหรับเราไม่เคยมีใบขับขี่จากประเทศไทย และไม่เคยขับรถยนต์เลยค่ะ เราเลยต้องมาเริ่มต้นใหม่หมดค่ะ เริ่มขั้นตอนแรกกันที่ สอบภาคทฤษฎีค่ะ

ต้องขออธิบายก่อนนะคะ ว่าที่นี่จะมีขั้นตอนการทำใบขับขี่ ที่แสนจะยาวนานมาก ไม่ใช่แบบบ้านเราที่ประเทศไทย ที่จะจัดการทุกอย่างวันเดียวจบ ถ้าสอบผ่านช่วงเช้า และตอนบ่ายก็ได้ใบขับขี่มาครอบครองเลยง่าย ๆ ฝันหวาน ๆ แบบนั้น ไม่เกิดขึ้นที่เบลเยียมแน่นอนค่ะ หากไม่มีทางเลือกให้กลับไปทำใบขับขี่ที่ประเทศไทยเพื่อมาขอแลกใบขับขี่ที่ประเทศเบลเยียม ก็มาเริ่มเตรียมตัวลุยกันเลยดีกว่าค่ะ สำหรับช่องทางการเรียนรู้ทฤษฎีสำหรับการขับรถยนต์นั้น มีให้เลือก ดังนี้ค่ะ

  1. เรียนด้วยตนเอง ผ่านเว็บไซต์ หรือ อ่านจากหนังสือ
  2. เรียนที่โรงเรียนสอนขับรถต่าง ๆ VAB หรือ TOPPER ราคาประมาณ 100€ โดยเรียนทั้งหมด 12 ชั่วโมง (เฉพาะทฤษฎี)

หมายเหตุเพิ่มเติมในการทำข้อสอบ

  1. หากคุณไม่เข้าใจภาษาเนเธอร์แลนด์ สามารถสอบในภาษาอังกฤษ หรือฝรั่งเศสได้ ผ่านล่ามภาษา (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) ไม่มีล่ามภาษาไทยค่ะ
  2. ข้อสอบ 50 ข้อ ต้องได้คะแนนอย่างน้อย 41 คะแนนจึงจะสอบผ่าน
  3. เกณฑ์การหักคะแนน คำถามทั่วไปหากตอบผิดหัก 1 คะแนน คำถามข้อกฎหมายความผิดร้ายแรง หากตอบผิดหัก 5 คะแนน
  4. คำตอบปรนัย แบบตัวเลือก 2 หรือ 3 ตัวเลือก มีเวลาคิดคำตอบข้อละ 15 วินาที!
  5. หากสอบไม่ผ่าน ต้องมาขอสอบอีกครั้งในวันถัดไป ห้ามขอยื่นสอบใหม่ในวันเดียวกันที่สอบไม่ผ่าน
  6. หากสอบไม่ผ่าน 2 ครั้ง จะโดนบังคับเข้าเรียนอย่างน้อย 12 ชั่วโมง จากโรงเรียนสอนขับรถที่เป็นที่ยอมรับของเขตนั้น ๆ (คือต้อง ยอมเสียเงิน 100€ นั่นเองค่ะ)

การเตรียมตัวสำหรับเราคือ สามีแนะนำให้เราเรียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.gratisrijbewiseonline.be เพราะเค้าเองก็สอบผ่านจากเว็บไซต์นี้ และเค้าคอนเฟิร์มกับเราเลยว่า แนวข้อสอบจากเว็บไซต์นี้ ตรงกับข้อสอบจริงมาก ๆ และเพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ต้องเสียเงิน 100€ เพื่อไปเข้าเรียนในคลาสของโรงเรียนสอนขับรถนั่นเองค่ะ

เมื่อเข้าเว็บไซต์ ให้คลิกเลือกไปที่ THEORIE ด้านบนของเว็บไซต์ แล้วก็เลือกประเภทรถที่ต้องการสอบ Rijbewijs B สำหรับรถยนต์ จะมีทั้งหมดหลัก ๆ 33 บท เนื้อหาสามารถอ่านได้ฟรี และดูคลิปสอนเพิ่มเติมได้ทางยูทูปที่เว็บไซต์แปะให้ดูในแต่ละบท แต่ถ้าหากอยากลองทำข้อสอบทั้งหมด ต้องจ่ายเงินเรียนค่ะ โดยเราสามารถซื้อโค้ดผ่าน SMS หรือ ผ่านบัตรเดบิต ได้ค่ะ โดยซื้อผ่านบัตรเดบิตราคา 4 € สามารถใช้โค้ดได้วัน 4 วัน และซื้อโค้ดผ่าน SMS ราคา 3,5 € ระยะเวลา 3 วันค่ะ

หลักการคือ ค่อย ๆ เรียนไปให้ครบ ทั้ง 33 บท โดยเค้าแนะนำขั้นตอนการเรียนมาให้ว่า อ่านวันละ 3-5 บท แล้วทดลองทำข้อสอบย่อยของแต่ละบทให้ครบ ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนครบทั้งหมด 33 บท  แล้วค่อยไปทำ Proefexamen หรือ การทดลองทำข้อสอบแบบสุ่มรวมคำถามของทุกบทจำนวน 50 ข้อ เพื่อติวเข้มรวมทุกบท และทดลองทำข้อสอบทั้งหมดอีกครั้ง ก่อนไปสอบจริงอีกรอบค่ะ

สำหรับเราใช้เวลาเรียนแบบไม่จริงจังประมาณ 1 ปีค่ะ คือเราทราบดีค่ะว่าหากสอบไม่ผ่าน 2 ครั้งต้องโดนบังคับให้เข้าเรียนตามสถาบันที่ได้รับการรับรอง และต้องเสียค่าเรียนอีก 100€ เราเลยไม่กล้าไปทำข้อสอบจริงเลยสักที เพราะคิดแล้วยังไงก็ยังไม่พร้อม ถอดใจอ่านไป ลืมไปบ้าง เรียนไม่ต่อเนื่อง เสียเวลาไปหลายเดือนอยู่ค่ะ

ตอนแรกเราก็เรียนผ่านเว็บไซต์ ภาคภาษาเนเธอร์แลนด์ (Dutch) ควบคู่ไปกับการอ่านหนังสือของเว็บไซต์ ที่สั่งซื้อมา 26,95€ ด้วยค่ะ (ไม่บังคับซื้อ เพราะเนื้อหาตรงกับเว็บไซต์ค่ะ สามารถอ่านได้ฟรีผ่านออนไลน์ค่ะ) เราตั้งใจไว้ว่า จะสอบให้ได้ตั้งแต่ปี 2019 แต่ก็ ล่าช้า ปล่อยเวลาล่วงเลยมาเป็นปี เพราะเราอ่านยังไงก็ไม่เข้าใจ เพราะมีคำศัพท์เฉพาะทางที่ยากมาก และเยอะมาก เราจะอาศัยแต่ท่องจำอย่างเดียวไม่ได้เลยค่ะ เพราะคำถามล้วนมาแบบให้ตัดสินใจแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จนรู้สึกว่าอ่านยังไงก็ไม่เข้าใจ เลยลองขอสามีอีกรอบว่านัดล่ามตอนสอบให้หน่อยสิ ไม่ไหวแล้ว เราขอสอบภาคภาษา English ได้ไหม เค้าก็บอกอยากให้ลองดัชต์ก่อน อยากให้เราสอบผ่านกับภาษาดัชต์ให้ได้

แต่นี่ใครละ นี่เมย์เอง ฟังที่ไหนดื้อหัวชนฝา จะขอสอบภาษาอังกฤษอย่างเดียว เลยเริ่มแอบลองหาหนังสือ สำนักพิมพ์เดิม แต่เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ซื้อมาจาก Standaard Bookhandle เล่มละ 49€ (แต่สำหรับคนที่ไม่อยากเสียเงินซื้อหนังสือนะคะ แนะนำให้ไปยืมจากห้องสมุดชุมชนได้ค่ะ หาได้ที่ชั้นหนังสือหมวดหมู่ รูปสัญญานไฟจราจรค่ะ จะมีหนังสือที่เรียนคู่กับเว็บไซต์นี้อยู่ค่ะ โดยมีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษอยู่ 2 เล่ม ต้องจองล่วงหน้าค่ะ ของร้อน คนยืมบ่อยมาก หากไปยืมไม่ทัน ก็สามารถจองออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ของห้องสมุดได้ค่ะ แต่เรามือไวใจร้อนไปหน่อย ซื้อหนังสือเสร็จเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า ทำไมไม่ไปลองหาที่ห้องสมุดก่อน เสียเงินฟรีเลยค่ะ)

พอเราได้อ่านฉบับภาษาอังกฤษแล้วนั้น สำหรับเรารู้สึกดีขึ้นมากกว่าอ่านฉบับภาษาดัชต์ค่ะ และทดลองทำข้อสอบภาษาอังกฤษ สอบผ่านตลอดเลยค่ะ จำได้ เข้าใจถ่องแท้ เลยคิดว่าเราพร้อมลงสนามสอบจริงแล้วแหละ แต่ก็ยังไม่ได้ไปสอบอยู่ดี แล้วเราก็ทิ้งเจ้าบทเรียนทั้งหมดไปอีกหลายเดือน รู้ตัวอีกทีก็สิ้นปีเฉยเลย เรียน ๆ เล่น ๆ ก็หมดปีให้เสียเวลาไปอย่างนั้นเองค่ะ

พอหลังปีใหม่ เลยตั้งใจใหม่อีกรอบ คือปี 2020 เราจะต้องสอบให้ผ่านเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้ตัวเองให้ได้ มีเวลาเตรียมตัว 1 อาทิตย์ เราอ่านทั้งหมด ทุกบท อีก 1 รอบ และกลับไปทดลองทำข้อสอบ ในภาษาดัชต์อีกรอบ ติวเข้มทำ Proefexamen เป็นระยะเวลา 3 วัน  ทำวนไปกี่รอบนับไม่ถ้วน จนครั้งนี้แหละ เราคิดว่าเราพร้อมจริงๆแล้ว ไม่รอช้า ไปลงสนามสอบจริงกันค่ะ

วันที่ 20/01/2020 ก็มาถึง ก่อนออกจากบ้านเช็คแม้กระทั่ง สีเสื้อมงคลประจำวัน ไหว้พระขอพร เอาทุกทาง สายมูต้องมา เราไปสอบพร้อมสามีค่ะ (สามีสอบทฤษฎีใบขับขี่รถบรรทุกค่ะ) เลยได้ฤกษ์งามยามดี ไปสอบพร้อมกันเลย  เราไปช่วง 8 โมงเช้าค่ะ คนเยอะนิดนึง ไปถึงก็ต่อคิว ตรงเคาน์เตอร์ และแจ้งว่ามาสอบใบขับขี่ B เจ้าหน้าที่จะถามว่า ครั้งแรกใช่ไหมคะ ก็ตอบอย่างตื่นเต้นไปว่าครั้งแรกจ้า เค้าจะขอบัตรประจำตัวประชาชน เราไว้ และจ่ายค่าธรรมเนียมการสอบ 15€ ค่ะ เมื่อจ่ายเรียบร้อยก็รับบัตรแข็ง ซึ่งเป็นบัตรเลขประจำเครื่องของคอมพิวเตอร์ เพื่อไปนั่งสอบนั่นเองค่ะ

ถึงเวลาเข้าห้องเย็นแล้วค่ะ ตื่นเต้นมาก ในห้องมีคนสอบประมาณ 6 คน นี่ไปถึงไม่พูดพร่ำทำเพลง เอากระเป๋าสะพายไปวางบนโต๊ะว่างที่เค้าจัดไว้ให้ เสื้อคลุมตัวยาวก็ไม่ถอด ผ้าพันคอก็ยังพันอยู่ นั่งมันลงไปอย่างนั้น ตื่นเต้นไปหมด ยังมีบรรยากาศเครื่องตรงข้ามเป็นรอยยิ้มของสามี เค้ากำลังทำข้อสอบรถบรรทุกอยู่นั่นเอง ส่วนเราตื่นเต้นมากกก ถึงมากที่สุด ทำอะไรไม่ถูก เลยขอนั่งสูดหายใจเข้าออก พุทธโธ ๆ อยู่ 3 รอบก็ ได้เวลา เอาหูฟังมาครอบหูไว้ และ จับเมาส์คลิกแบบตั้งใจ ค่อย ๆ อ่านคำแนะนำไปทีละขั้นตอน

หน้าจอจะขึ้นข้อความเช็คชื่อของผู้สอบ ว่านั่งตรงเครื่องคอมพิวเตอร์มั้ย ถ้าชื่อตรง และสะกดถูกต้องก็ กดถัดไป ระบบจะถามว่า ต้องการทดลองทำข้อสอบก่อนสอบจริงมั้ย เราก็ เลือกทดลองไป เพราะรู้ตัวว่ายังตื่นเต้นอยู่ เลยลองทำไป 2 ข้อ เฮ้ย ถูกหมดเลย นี่มันเป็นสัญญาณที่ดีแน่ ๆ หลังจากนั้น ก็ถึงเวลาทำข้อสอบจริง ๆ แล้วค่ะ

หน้าจอจะแสดงคำถาม พร้อมภาพประกอบ ระบบเสียงอันโนมัติจะอ่านทั้งคำถาม และคำตอบ ให้เราฟัง 1 รอบ และหลังจากระบบอ่านให้ฟังครบหมดแล้ว ทันใดนั้น แถบจับเวลาจะเริ่มวิ่งถอยหลัง

แต่ละข้อจะมีเวลาให้คิด น้อยมาก ข้อละ 15 วินาทีเท่านั้น หลังจากระบบอ่านให้ฟังครบทุกคำ เราต้องเลือกคำตอบทันที มึนงงไปหมด ไหนจะต้องฟัง ต้องอ่าน ต้องดูรูปป้ายสัญลักษณ์ต่าง ๆ กลัวโดนตบตา กลัวโดนหลอก อาจจะมีกับดักซ่อนอยู่ในรูป ต้องแปลคำถาม-ตอบ ต้องหาคำตอบที่ถูกต้อง มันลนลานไปหมด เวลาที่เห็นแถบเวลาจากสีเขียว เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ตามด้วยสีส้ม แล้วในที่สุด มันจะเป็นสีแดงงงงงง นั่นคือเวลา 15 วินาทีของเราจะหมดแล้ว ต้องรีบเลือกข้อใดข้อหนึ่ง ดีกว่าไม่ได้ตอบหากหาคำตอบไม่ได้จริง ๆ เลือกไว้ก่อนดีกว่าปล่อยคำตอบว่างค่ะ

และข้อสุดท้ายก็มาถึง พอผลคะแนนออกมา สรุปวันแรกได้ 38/50 สรุปคือ เราสอบตก หน้าชาเลยค่ะ ถามตัวเองว่าพลาดตรงไหน พยายามจำข้อที่ผิด เอามาหาคำตอบที่บ้าน พรุ่งนี้จะไปสอบอีกรอบ บอกกับตัวเอง วัดดวงไปเลย ไม่มีไรต้องเสียแล้ว ความรู้ในหัวกำลังร้อน ไม่สอบวันพรุ่งนี้จะสอบวันไหน ฮึ้ดสู้อีกครั้ง

วันที่ 21/01/2020 นั่งรถเมล์ไปสอบเอง ไปรอบบ่าย คนไม่เยอะค่ะ ไปถึงก็ยื่นบัตรประชาชน แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามาสอบครั้งที่ 2 วันนี้คนน้อย มีเรากับ สาวสวยชาวแขก อีก 1 คน เลยมีแค่ 2 คนในห้องสอบ เราจ่าย 15€ อีกครั้งเรียบร้อยแล้วก็เข้าห้องสอบค่ะ พอเราไปถึงก็เอากระเป๋าไปวาง ถอดเสื้อคลุมไปแขวนสวย ๆ ถอดผ้าพันคอไปแขวนอีกรอบ พอไปนั่งที่โต๊ะ เห็นสายเมาส์กับหูฟัง มันพันกันเป็นเกลียว ไม่สวยเอาซะเลย ก็ยังมีเวลานั่งแกะสายออกจากกัน ยังมีเวลาเช็คบรรยากาศรอบ ๆ ห้อง คอมพิวเตอร์มีกี่เครื่องกันนะ ตู้เซิฟเวอร์ระบบอยู่มุมนั้น กล้องวงจรปิดอยู่มุมนี้นะ ชิวมาก บางทีก็ชิวไป 55

วันนี้เราสงบมากกว่าวันแรก ชินสถานที่ และเรารู้แล้วว่าจุดอ่อนเราคืออะไร คือตื่นสถานที่ และ เจ้าหูฟังนั่นเอง ระบบจะอ่านคำถามแบบเสียง Siri ในไอโฟนเลย ฟังไม่ลื่นหู ยิ่งฟังยิ่งงง เจ้าตัวปัญหา แกทำฉันไขว้เขว วันนี้ฉันจะไม่ฟังแกแล้ว เราเลือกที่จะอ่านเอง แต่เราก็ครอบหูฟังไว้แหละค่ะ ลดเสียงรบกวนจากภายนอก แต่ปรับเสียงเป็น 0 นะคะ แล้วก็ตามสเต็ปเดิม หายใจเข้า ออก พุทธ โธ เรียกสมาธิ เรียกสติวันนี้เรียกมาได้เยอะเลยแหละ ทำข้อสอบก็ทำช้าๆ คลิกไป จนจบ ผลลัพธ์คือ ผ่านค่ะ 47/50 คุณพระช่วย ผ่านแล้ว ดีใจมาก ยิ้มแก้มแทบแตก เหมือนยกภูเขาออกจากอก กรี๊ดได้กรี๊ดไปแล้วค่ะ จริง ๆ

แล้วก็เดินออกมาจากห้องสอบ ยื่นบัตรแข็งเบอร์เครื่องคอมพิวเตอร์คืนให้เจ้าหน้าที่ด้วยความภาคภูมิใจ เค้าก็กล่าวแสดงความยินดี ว่าคุณผ่านแล้วนะคะ  ช่วยถอยหลังไปสองก้าว แล้วยืนตรงเส้นสีแดงหน้าเคาน์เตอร์ แล้วอ่านอักษรบนกระดานด้วยค่ะ ว่าตัว E หันไปทางไหน บน ล่าง ซ้าย ขวา เพื่อเช็คค่าสายตาเรานั่นเองค่ะ

หลังจากนั้นเค้าก็ให้เอกสารที่ต้องใช้มา 1 ใบ เพื่อเอาไปยื่นที่ซิตี้ และขอใบขับขี่ชั่วคราว ที่ทำมาทั้งหมดนี้ ได้แค่ใบขับขี่แบบชั่วคราวนะคะ เพื่อนำไปใช้สำหรับฝึกหัดขับรถก่อนสอบปฏิบัติ เพื่อขอใบขับขี่จริงโดยมีระยะเวลาฝึก 3 ปีนั่นเองค่ะ

จบมหากาพย์ สอบทฤษฎีใบขับขี่เบลเยียม เล่นเอาเครียดข้ามปีเลยเหมือนกันค่ะ กว่าจะผ่านกับเค้าซักที สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวไปสอบทฤษฎีก็สู้ ๆ นะคะ วันนั้นของเราต้องมาถึงค่ะ พยายามมีสติให้มาก ๆ รวบรวมสมาธิ และจับจุดแปลคำถามให้ได้ค่ะ หากใครมีคำถามเพิ่มเติม สอบถามได้นะคะ ยินดีช่วยเหลือเต็มที่ค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม 

เว็บไซต์ : https://www.gratisrijbewijsonline.be 

สถานที่สอบ : Examencentrum Brugge : https://www.km.be/rijbewijs/rijbewijs-b